- Back to Home »
- nex , nex-c3 , sony »
- สัมผัสแรก Sony NEX-C3
Posted by : Unknown
วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
โซนี่ ประเทศไทย ส่งกล้อง NEX-C3 ลงสนามกล้องไร้กระจกสะท้อนภาพ (Mirrorless) ทดแทนรุ่น NEX-3 เพิ่มฟังก์ชันปรับแต่งรูปและอินเตอร์เฟสแบบใหม่ ใช้งานง่าย พร้อมเปิดขาย 2 รุ่น ได้แก่ NEX-C3K ที่มาพร้อมเลนส์ระยะ 18-55 มิลลิเมตร ในราคา 21,990 บาท และ NEX-C3D ที่มาพร้อมเลนส์ระยะ 18-55 กับ 16 f2.8 มิลลิเมตร ในราคา 24,990 บาท พร้อมเปิดตัวเลนส์ตระกูล E-Mount มาโครรุ่นใหม่ที่ระยะ 30 มิลลิเมตร F3.5 และแฟลชตัวใหม่สำหรับกล้องตระกูล NEX ในรุ่น HVL-F20S ที่มาพร้อมความสามารถในการ Bounce แฟลชขึ้นเพดานได้เหมือนแฟลชตัวใหญ่ (แฟลชจะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงปลายปี)
ซึ่งสำหรับวันนี้ทางทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ได้มีโอกาสเข้ารับการทดสอบกล้อง Sony NEX-C3 ก็เลยถือโอกาสรีวิวและโชว์ประสิทธิภาพของกล้องตระกูลนี้ให้พ่อแม่พี่น้องได้รับชมกันครับ
โดยในด้านรูปลักษณ์ของตัวกล้องจะเห็นว่ามีการปรับเปลี่นขนาดให้จับถนัดมือกว่ารุ่น NEX-3 พร้อมลดน้ำหนักกล้องลงเหลือ 225 กรัมจากรุ่น NEX-3 ที่ 239 กรัม อีกทั้งในส่วนของวัสดุที่ใช้ผลิตจะมีการอัปเกรดในส่วนด้านบนให้มีความแข็งแรงมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ส่วนบอดี้ยังเป็น Polycarbonate เฉกเช่นเดียวกับ NEX-3 แต่มีการวางลายและการออกแบบใหม่ ทำให้จับกระชับมือมากกว่ารุ่นก่อน อีกทั้งในเรื่องการจัดสรรพลังงานในตัวที่ทางโซนี่เครมว่าจะทำให้แบตเตอรีอึดขึ้นอีก 20%
ในส่วนของจอภาพจะมีขนาด 3 นิ้วแบบ XtraFine TruBlack LCD ที่สามารถปรับขึ้น-ลงได้ และในส่วนด้านล่างของตัวกล้องจะเห็นว่าตำแหน่งของช่องใส่การ์ดหน่วยความจำที่รองรับตั้งแต่ SD SDHC SDXC MS-PRO Duo จะถูกแยกออกมาให้ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายขึ้น
มาที่ด้านของเซนเซอร์รับภาพจะยังคงเป็นตัวเดียวกับ NEX-3 และ NEX-5 กล่าวคือเซนเซอร์ที่ใช้จะเป็น Exmor APS HD CMOS ขนาด 23.4x15.6 มิลลิเมตร หรือเทียบเท่ากับกล้อง DSLR รุ่นกลางๆ อีกทั้งเมาท์เลนส์จะยังคงเป็นตระกูล E-Mount ที่สามารถใส่เลนส์ของกล้องตระกูล Alpha (A mount) ได้โดยผ่าน Adapter LA-EA1
อีกทั้งในวันนี้ทางโซนี่ยังได้นำเลนส์ E-Mount รุ่นใหม่อย่าง Macro 30 mm f3.5 ที่จะเริ่มวางขายเร็วๆ นี้มาให้ทีมงานได้ทดสอบกันอีกด้วย โดยตัวเลนส์ดังกล่าวจะถูกออกแบบมาให้ใช้กับ E-Mount บนกล้องตระกูล NEX ทุกรุ่น โดยค่ารูรับแสงของเลนส์ต่ำสุดอยู่ที่ f3.5 สูงสุดที่ f22 และโฟกัสใกล้สุดอยู่ที่ 3.74
ในส่วนของชิ้นเลนส์จะประกอบด้วย aspherical 3 ชิ้น และ ED Glass 1 ชิ้น และอัตราขยายเป็นแบบ 1:1
Specifications and Special Features
ในส่วนของสเปกตัวกล้องในส่วนของความละเอียดจะมีการอัปเกรดความละเอียดจาก 14.2 ล้านพิกเซลเป็น 16.2 ล้านพิกเซล (4,912x3,264 พิกเซล) ในส่วนของวิดีโอจะถ่ายในรูปแบบ MP4 HD 720p (1,280x720 พิกเซล) และความละเอียด 640x480 พิกเซลที่ความเร็วเฟรม 29.97 เฟรมต่อวินาที
สำหรับ ISO จะมีให้เลือกตั้งแต่ 200-12,800 และในส่วนของหน่วยประมวลผลภาพจะยังคงใช้ BIONZ เหมือนรุ่นก่อน และสุดท้ายในส่วนการถ่ายภาพต่อเนื่องจะมีความเร็วที่ 2.5 เฟรมต่อวินาที ส่วนโหมด Speed Priority จะอยู่ที่ 5.5 เฟรมต่อวินาที
นอกจากนั้นส่วนที่เปลี่ยนแปลงสำคัญอีกหนึ่งส่วนสำหรับกล้อง NEX-C3 ก็คือซอฟท์แวร์ภายในที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
โดยการเปลี่ยนแปลงในส่วนแรกจะอยู่ที่การเพิ่มระบบ Peaking Level (ใน NEX-3 และ 5 รุ่นก่อนหน้าสามารถใช้ระบบดังกล่าวได้ด้วยการอัปเกรดเฟริมแวร์ รุ่นที่ 4 จากเว็บโซนี่) ที่ช่วยในการโฟกัสภาพสำหรับบรรดาเลนส์มือหมุน โดยระบบสามารถเข้าไปเปิดได้ในหน้าเมนู Setup
ซึ่งการทำงานของ Peaking Level จะใช้จุดสี (เช่นในภาพตัวอย่างด้านบนจะเป็นจุดสีแดงหลายจุด) เป็นตัวบอกว่าตอนนี้ผู้ใช้หมุนเลนส์เข้าโฟกัสตำแหน่งใดบ้าง ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องคอยเข้าโหมด MF Assistant ให้เสียเวลา
นอกจากนั้นก็ยังมีโหมด Picture Effect ที่เพิ่มเข้ามาใน Shoot Mode ที่ผู้ใช้สามารถเลือกเอ็ฟเฟ็กภาพแปลกตาต่างๆ ได้ไม่ว่าจะเป็น Toy ซึ่งเป็นการใช้เอ็ฟเฟ็กแบบโลโม่ Patial Color (R/G/B/Y) ที่เป็นโหมดดูดสีให้เหลือเฉพาะสีที่เราต้องการนอกนั้นจะเป็นสีขาว-ดำ หรือ Retro ที่เป็นเอ็ฟเฟ็กแบบวินเทจย้อนยุค
และสุดท้ายสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะ NEX-C3 คงอยู่ที่ฟังก์ชัน Photo Creativity ที่อยู่ในโหมด iAuto โดยฟังก์ชันดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายตามความต้องการได้ โดยการเพิ่มเอ็ฟเฟ็กภาพลงไปได้หลายเลเยอร์ เช่น ผู้ใช้ต้องการปรับโทนสีแบบอุ่น แต่อยากใช้ Soft Skin ด้วย ผู้ใช้ก็สามารถเพิ่มเอ็ฟเฟ็กทั้งหมดลงไปได้ด้วยการกดเพิ่มเอ็ฟเฟ็กไปเรื่อยๆ จนพอใจ
ทดสอบประสิทธิภาพ
ทดสอบ SEL30M35
SEL30M35 คือรหัสเลนส์ Macro ระยะ 30 f3.5 ที่ได้กล่าวเปิดตัวไปข้างต้นแล้ว ซึ่งจากการทดสอบใช้งานคร่าวๆ ในเวลาค่อนข้างจำกัด พบว่าคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ดี ถึงแม้ F-stop ที่ให้มาอาจไม่ต่ำมาก แต่ด้วยอัตราส่วนขยายแบบ 1:1 และราคาที่ทางโซนี่ตั้งไว้ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แถมเป็น E-Mount เชื่อมต่อกับกล้องตระกูล NEX ได้แล้วก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว
สรุป
สำหรับกล้องไร้กระจกสะท้อนภาพ NEX-C3 ตัวใหม่ที่ทางโซนี่ต้องการคลอดออกมาแทนที่ NEX-3 รุ่นก่อนหน้า อย่างแรกต้องยอมรับว่าการที่ทำให้ NEX-C3 มีความเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างการเพิ่มฟังก์ชัน Photo Creativity รวมถึงการออกแบบที่เน้นแก้ข้อพกพร่องของ NEX-3 เป็นหลักก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และทำให้ C3 มีความเป็นตัวตนชัดเจนมากกว่าตอนเปิดตัว NEX-5 และ NEX-3 อีกทั้งในเรื่องของราคาที่ตั้งไว้ไม่สูงจนเกินเอื้อมเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่พูดได้เต็มปากว่า "เป็น NEX-5 ลดสเปกถ่ายวิดีโอ Full HD เท่านั้น"
แต่ทั้งนี้สำหรับกล้อง NEX-C3 ก็อาจมีข้อติเล็กน้อยอยู่บ้าง เช่น เรื่องจอ LCD ที่อาจยังสู้แสงอาทิตย์ได้ไม่ดี และอีกส่วนที่สำคัญคือเรื่องของการสั่งงานผ่าน Click Wheel ที่ถึงแม้ใน NEX-C3 จะมีการปรับปรุงซอฟท์แวร์ให้ใช้งานง่ายขึ้น แต่สำหรับผู้ใช้ที่เป็นมือใหม่จริงๆ ก็ยังคงรู้สึกว่าใช้งานยากและต้องอาศัยเวลาศึกษา ทำความเคยชินเหมือนรุ่นก่อนหน้าอยู่ดี
Company Relate Link :
Sony
ที่มา http://www.manager.co.th/
แสดงความคิดเห็น